ฉลากสติ๊กเกอร์ PP (PP Sticker)
ฉลากสติ๊กเกอร์ : เป็นสติ๊กเกอร์ที่แข็งแรง กันน้ำได้ 100% สามารถทนความร้อนได้ถึง 90°C หมวยต้องบอกเลยว่า สติ๊กเกอร์ PP จะมีความสวยงาม และ มีความเรียบมากกว่า สติ๊กเกอร์แบบทั่วไป จุดนี้จึงทำให้สติ๊กเกอร์ PP เป็นที่นิยมสำหรับ การนำมาทำ เป็นสติ๊กเกอร์ฉลากสินค้า กันน้ำ ที่มีราคาถูก เช่น ฉลากติดขวดแชมพู ฉลากติดขวดครีมนวดผม เป็นต้น
แต่ว่าหมวยจะ ไม่แนะนำ ให้ทุกคนนำสติ๊กเกอร์ PP ไปติดกับบรรจุภัณฑ์ หรือ อะไรก็ตาม ที่ต้องมีการลอกออกบ่อย ๆ นะคะ เพราะว่า “ตัวสติ๊กเกอร์ PP นั้น ไม่ได้มีความยืดหยุ่นสูง เท่ากับ ตัวสติ๊กเกอร์ PVC นั่นเอง” โดยเจ้าตัวสติ๊กเกอร์ PP เนี่ย มันจะมีพื้นผิว ให้เราได้เลือกมาใช้ หลากหลายรูปแบบ หลากหลายชนิด ยกตัวอย่างเช่น PP ใส PP ขาวเงา PP ขาวด้าน เป็นต้น
สติ๊กเกอร์แต่ละชนิดนั้น เราจะได้รับ Effect ของความสวยงาม และ ได้สัมผัสถึงพื้นผิว ที่แตกต่างกัน ซึ่งในส่วนตรงนี้หมวยว่า ต้องขึ้นอยู่กับความชอบ ของแต่ละคนด้วยนะ เพราะ ความชอบของแต่ละคน มันไม่เหมือนกันอยู่แล้ว ถ้าเราชอบพื้นผิวแบบไหน เราก็เลือกใช้ เนื้อสติ๊กเกอร์แบบนั้นได้เลย!! (แต่อย่าลืม คิดถึงการนำไปใช้งานด้วยนะ เลือกผิด เสียเงินฟรีเด้ออ!!)
ฉลากสติ๊กเกอร์ PP(PP Sticker) สามารถแบ่งออกเป็นกี่ประเภทนะ?!🤔
- PP แบบใส : สติ๊กเกอร์ประเภทนี้ เรามักจะนิยม นำไปใช้ผลิต เป็นฉลากสินค้า ที่ต้องการจะเน้นให้เห็น พื้นผิวของบรรจุภัณฑ์ เป็นพิเศษ ด้วย Texture ความใส ทำให้เราสามารถ มองทะลุผ่านตัวฉลากสินค้า ไปยังบรรจุภัณฑ์ หรือ เราสามารถมองเห็น สินค้าภายในบรรจุภัณฑ์ได้ ซึ่งก็ปฎิเสธไม่ได้ว่า “มันช่วยเพิ่มเสน่ห์ ให้กับสินค้าของกิจการ ของเราได้เป็นอย่างดีเลยล่ะ”
- PP แบบขาวด้าน : สติ๊กเกอร์ประเภทนี้ เรามักนิยมนำมาออกแบบ เป็นฉลากสินค้า ที่ไม่ต้องการเงา ไม่ต้องการความวาว ซึ่งก็ต้องบอกว่ามันก็มีความเก๋ไก๋ ดูคลาสสิค และมีลูกเล่นไปอีกแบบนึงเลยแหละ และ สติ๊กเกอร์แบบนี้ เหมาะกับนำไปใช้ ผลิตเป็นฉลากสินค้า ที่ใช้ติดกับสินค้าภายในร่ม หรือ สินค้า บรรจุภัณฑ์ที่เนื้อผิวมีความเรียบ เช่น ขวดแก้ว ฯลฯ
- PP แบบขาวเงา : สติ๊กเกอร์ประเภทนี้ เรามักนิยมนำมาออกแบบ เป็นฉลากสินค้า ที่ต้องการความเงา ความวาววับ เพื่อช่วยขับให้สินค้าดูดี สวยงาม ดูมีอะไรน่าสนใจ ดูมีราคา และเรามักจะนิยมนำมาใช้ ผลิตเป็นฉลากสินค้า เพื่อนำไปติดลงบนบรรจุภัณฑ์ จำพวกเครื่องสำอาง สกินแคร์ต่าง ๆ เพื่อเพิ่มในเรื่องของ ความสวยงาม ความเก๋ไก๋ ความเรียบหรู ดูแพง ให้กับสินค้าของคุณ
เราสามารถเพิ่มมูลค่า ฉลากสติ๊กเกอร์ PP (PP Sticker) ได้มั้ย?!🤔
แน่นอน!! เราสามารถ เพิ่มมูลค่า ให้กับสติ๊กเกอร์ PP ได้ ด้วยการเคลือบเงา ให้เนื้องานสติ๊กเกอร์ มีความเงางาม เรียบหรู และ เรายังสามารถ เคลือบสติ๊กเกอร์แบบด้าน ที่จะทำให้เนื้องานสติ๊กเกอร์ เหมือนสติ๊กเกอร์ฝ้า เนื้องานมีความเนียนสวย ทำให้งานดูคลาสสิค เพิ่มเข้าไปอีก ชอบแบบไหนก็เลือกได้ ตามความชอบเลยจ้า
ซึ่งการเคลือบทั้ง 2 แบบนี้ มันสามารถช่วยแก้ไขปัญหา ในเรื่องของ การป้องกัน ผิวหน้างานพิมพ์ เพื่อไม่ให้เป็นรอย ที่เกิดจากการขีดข่วน // แก้ไขปัญหาสีหลุด สีลอก ออกจากงานพิมพ์ ที่อาจทำให้ สติ๊กเกอร์ไม่สามารถใช้งานได้ // ช่วยให้สติ๊กเกอร์สามารถติดขวดที่มีมุมโค้ง ได้ดีขึ้นกว่า สติ๊กเกอร์ก่อนหน้า ที่จะทำการเคลือบเงา หรือ เคลือบด้าน นั่นเอง
✅ข้อดีของ ฉลากสติ๊กเกอร์ PP (PP Sticker)✅
- สามารถกันน้ำได้ 100% และ ทนความร้อนได้ 90°C
- มีเนื้องานที่เหนียว ทำให้สติ๊กเกอร์ ไม่ฉีกขาดง่าย
- มีความแข็งแรง ทนทาน อายุการใช้งานนาน
- มีพื้นผิวที่เรียบเนียน และ สวยงามกว่าสติ๊กเกอร์แบบอื่น
❌ ข้อเสียของ ฉลากสติ๊กเกอร์ PP (PP Sticker)❌
- มีราคา ที่ค่อนข้างแพง ทำให้ต้นทุน ในการผลิต ค่อนข้างสูง
- หากเราทำการขีดข่วน ลงบนฉลากสินค้า PP อาจทำให้สีหลุดลอกได้ (หมวยเตือนแล้วน๊าา)
- หากเราทำการแกะ สติ๊กเกอร์ออกมา แล้วแปะลงไปใหม่ อาจทำให้ เป็นรอยริ้วได้ (มันจะไม่สวยเอาน๊าา)
- สีอาจมีการหลุดเปื้อน และทำให้เลอะมือ จากการที่โดนน้ำยาบางชนิด (ระวังกันด้วยน๊าา)
- ไม่สามารถ นำไปใช้ติด กับขวดที่มีความโค้ง หรือ ขวดที่มีความนูนได้ เนื่องจาก มันอาจทำให้เกิดรอยยับ
สติ๊กเกอร์กันปลอม PP มีข้อดีอะไรบ้าง?
หากพวกเราได้ทำ ความรู้จักกับสติ๊กเกอร์ PP แล้ว ทุกคนอาจเคย ได้ยินคำว่า “สติ๊กเกอร์ PP กันปลอม” กันมาบ้างแล้ว
และทุกคนก็คง สงสัยกันใช่มั้ยล่ะ ว่า สติ๊กเกอร์ PP กันปลอมเนี่ย มันคืออะไร มันใช้งานอะไร หรือ มีประโยชน์อย่างไรบ้าง ซึ่งข้อดีของเจ้าสติ๊กเกอร์ PP กันปลอมคือ ช่วยป้องกัน ในเรื่องของปัญหา การปลอมแปลงสินค้า ทำให้ยากต่อการลอกเลียนแบบ เพิ่มความน่าเชื่อถือ ให้กับสินค้าของคุณ อีกทั้งยังเป็น ตัวช่วยในการ เพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าของเราอีกด้วย
ความแตกต่างระหว่าง PP และ PVC ช่วยให้ตัดสินใจง่ายขึ้น!
หลาย ๆ คนอาจสงสัยว่า แล้ว PP กับ PVC มันต่างกันยังไง ทำไมถึงมีราคาที่ต่างกัน เดี๋ยวหมวยจะสรุปสั้น ๆ แต่ได้ใจความ
ให้ทุกคนเข้าใจแบบกระจ่างแจ้งกันไปเลย จะได้ช่วยให้ทุกคน นำไปใช้ในการตัดสินใจ เลือกสติ๊กเกอร์มาผลิต เป็นฉลากสินค้า
สติ๊กเกอร์ PVC : เป็นสติ๊กเกอร์ ที่มีเนื้องานหนา ฉีกแล้วไม่ขาด กันน้ำได้ 100% ทนความร้อนได้ 60°C มีความยืดหยุ่นสูงกว่า PP เหมาะสำหรับ การนำไปใช้ติดกับแกลลอน ติดถังน้ำ หรือผลิตงาน outdoor ต่าง ๆ
แต่!!!มีข้อดีก็ต้องมีปัญหา ถูกต้องมั้ยคะ? ซึ่งปัญหาของเจ้า PVC เนี่ย จะเป็นปัญหา ในส่วนของเรื่องความคมชัด หากจะพิมพ์ฉลากหรืองานที่มีตัวอักษร ตัวเล็ก ๆ เจ้า PVC จะให้ความละเอียดได้ดีไม่เท่ากับงาน PP ถ้าเน้นงานตัวหนังสือเล็ก ๆ มินิมอล ๆ หมวยขอแนะนำไปทางเจ้าน้อง สติ๊กเกอร์ PP จะดีกว่า แต่ถ้าเน้นงาน Outdoor งานที่ต้องการความยืดหยุ่นสูง แนะนำเจ้าน้อง สติ๊กเกอร์ PVC เลยจ้า
ส่วนเจ้าน้อง PP ก็มีคุณสมบัติ ตามที่เราได้เขียนมา ในข้างต้นแล้ว ซึ่งมาถึงตรงนี้แล้ว หมวยก็จะขอ สรุปแบบสั้น ๆ ง่าย ๆ เพื่อให้ทุกคน ได้ตัดสินใจกัน แบบไม่ลังเล และ ไม่ตัดสินใจพลาดกัน ในเรื่องของการ ที่จะเลือกใช้น้อง ๆ ทั้งสองแบบนี้ ว่างานของทุกคนที่กำลังจะทำฉลาก ควรเลือกน้องคนไหนดี ไปอ่านสรุปกันเลย!!
- น้อง PP จะมีความเรียบ และ ความสวยงามกว่า น้อง PVC
- น้อง PP จะทนความร้อนได้ดีกว่า น้อง PVC
- น้อง PP เนื้องานจะบางกว่า น้อง PVC
- น้อง PP จะติดกับขวดที่มีความโค้ง ความนูนไม่ได้
- น้อง PVC จะมีความยืดหยุ่นสูงกว่า น้อง PP
หมวยหวังว่าบทความนี้ จะช่วยให้ทุกคนได้รู้จัก กับสติ๊กเกอร์ PP กันมากขึ้น และหวังว่า บทความนี้ จะเป็นตัวช่วย ให้ทุกคนได้ตัดสินใจ เลือกเนื้องานสติ๊กเกอร์ ที่เหมาะสมกับสินค้า เหมาะสม กับบรรจุภัณฑ์ ของทุกคนได้ดีนะคะ แล้วเรามาพบกันใหม่ ในบทความหน้า มาลุ้นกันว่า บทความต่อไปหมวยจะมาพูดถึงเรื่องอะไร ให้ทุกคนได้กดเข้ามาอ่านกัน ฝากติดตามด้วยน๊าา🥰
อ้างอิง ข้อมูลจาก https://www.smile-siam.com/2020/12/10/waterproof-sticker/